
โปรแกรม Juve : PDLLA Collagen Biostimulator
โปรแกรม Juve เป็นฉีดยาในกลุ่ม collagen Biostimulator ที่มีส่วนผสมเป็น PDLLA เป็นทางเลือกใหม่สำหรับการดูแลปรนนิบัติผิว คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว ใช้ในการฟื้นฟูผิว ลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวแน่นกระชับ รูขุมขน หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวฉ่ำอิ่มน้ำ สุขภาพดี ทั้งนี้ตัว PDLLA ได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศไทยโดยขึ้นทะเบียนเป็นเครื่องมือแพทย์แบบฉีด
สารบัญ คลิกอ่าน
- PDLLA คืออะไร?
- ตัวยามีส่วนผสมอะไรบ้าง?
- PDLLA ทำงานอย่างไร?
- PDLLA คือฟิลเลอร์หรือไม่?
- PDLLA ต่างจาก Collagen Biostimulator ตัวอื่นอย่างไร?
- PDLLA ช่วยเรื่องอะไร?
- เหมาะกับใครบ้าง?
- ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง?
- PDLLA กี่วันเห็นผล?
- PDLLA ฉีดทุกกี่เดือน?
- ผลลัพธ์จาก PDLLA อยู่นานเท่าไหร่?
- PDLLA ปลอดภัยหรือไม่?
- สลายได้หรือไม่?
- ขั้นตอนการรักษาเป็นอย่างไร?
- การฉีด PDLLA เจ็บหรือไม่?
- ผลข้างเคียงหลังการฉีดมีอะไรบ้าง?
- ฉีดแล้วบวมหรือไม่?
- การฉีด PDLLA สามารถทำพร้อมหัตถการอื่นได้หรือไม่?
- ผู้ที่ไม่ควรฉีด PDLLA?
- สามารถฉีดในคนอายุเยอะได้หรือไม่?
- PDLLA รักษาหลุมสิวหรือแผลเป็นได้หรือไม่?
- การปฏิบัติตัวก่อนฉีดทำอย่างไร?
- การดูแลตัวเองหลังฉีดทำอย่างไร?
PDLLA คืออะไร?
- PDLLA คือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือ Collagen Biostimulator ชนิดหนึ่ง ใช้ในการฟื้นฟูผิว โดยเมื่อฉีดจะเป็นโครงสร้างชั่วคราวเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนมาเกาะ หลังจากนั้นจะสลายตามธรรมชาติโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง
- PDLLA ถูกออกแบบมาฉีดในชั้นตื้น (subdermis) ได้เพื่อใช้สำหรับงานผิว glass skin โดยเฉพาะ ทำให้สามารถฉีดบริเวณใต้ตาได้
ตัวยามีส่วนผสมอะไรบ้าง?
มีส่วนผสมของตัวยา 2 ตัวคือ PDLLA(Poly D-L-Lactic Acid) เป็นสารโพลิเมอร์ จากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ริ้วรอย รูขุมขนขนกว้าง แผลเป็นตื้นขึ้น ผิวตึงแน่นกระชับและ Non-Cross-Linked Hyaluronic Acid ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว ทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ผิวดูฉ่ำวาว
PDLLA ทำงานอย่างไร?
- สาร PDLLA เมื่อฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนังจะมีบทบาทเป็นตัวกระตุ้นเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดปฏิกิริยาชีวภาพในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง โดย PDLLA จะกระตุ้นกระบวนการอักเสบแบบเดียวกับการรักษาบาดแผลหรือการเย็บแผล แต่มีความอ่อนโยนกว่า ทำให้เกิดการซ่อมแซม กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ฟื้นฟูผิวด้วยตัวเอง ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ทั้งยังสามารถอยู่ได้นาน
- ส่วนผสมอีกอย่างนั้นคือ Non-Cross-Linked Hyaluronic Acid เป็น HA แบบเหลว ไม่ขึ้นรูป ทำให้ไม่เป็นก้อน เมื่อฉีดแล้วจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ฉ่ำวาว

PDLLA คือฟิลเลอร์หรือไม่?
PDLLA ไม่ใช่ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็ม แต่เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนหรือ Collagen biostimulator ที่กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินตามมา จากการซ่อมแซมผิวด้วยตัวเอง
PDLLA ต่างจาก Collagen Biostimulator ตัวอื่นอย่างไร?
- PDLLA ต่างจาก Collagen Biostimulator ตัวอื่นคือมีรูปร่างเป็นทรงกลมคล้ายฟองสบู่ ไม่มีเหลี่ยม ทำให้ลดการบาดเจ็บต่อผิวหนังรอบๆ ลดโอกาสการเกิดก้อนและไต จึงสามารถฉีดได้แม้บริเวณบอบบางเช่นใต้ตา
- PDLLA เป็น Collagen Biostimulator ที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับงานผิว ใช้ฉีดผิวชั้นตื้นๆ ต่างจากตัวอื่นที่เน้นฉีดผิวชั้นลึก
- PDLLA มีส่วนผสมคือกรดไฮยาลูโลนิค ทำให้เห็นผลเรื่องผิวฉ่ำเร็ว ต่างจากตัวอื่นที่ต้องรอผลการสร้างคอลลาเจนอย่างเดียว

PDLLA ช่วยเรื่องอะไร?
จากกลไกของการรักษาด้วยตัวยา PDLLA กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ เติมความชุ่มชื้นให้ผิว จึงส่งผลดังต่อไปนี้- การฉีด PDLLA ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ริ้วรอยเดิมตื้นขึ้น
- การฉีด PDLLA ช่วยทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้น
- การฉีด PDLLA ช่วยกระชับรูขุมขน ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- การฉีด PDLLA ช่วยเรื่องการซ่อมแซมแผลเป็น หลุมสิว รอยแตกลาย
- การฉีด PDLLA ช่วยทำให้ผิวฉ่ำ ชุ่มชื้น หน้าดูใสขึ้น

เหมาะกับใครบ้าง?
- PDLLA เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลปรนนิบัติ บำรุงผิว ป้องกันปัญหาผิวในอนาคต
- PDLLA เหมาะกับผู้มีริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาและลำคอ
- PDLLA เหมาะกับผู้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่แน่น
- PDLLA เหมาะกับผู้มีปัญหาแผลเป็น หลุมสิวและรอยแตกลาย
- PDLLA เหมาะกับผู้มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่เนียน
- PDLLA เหมาะกับผู้มีปัญหาผิวแห้งขาดน้ำ
ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง?
PDLLA สามารถฉีดผิวได้ทุกบริเวณที่ต้องการสร้างคอลลาเจน ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า ลำคอ หลังมือ ต้นขา หน้าท้อง
PDLLA กี่วันเห็นผล?
- หลังการฉีดโปรแกรม Juve ผิวจะดูเต็มขึ้นในบางบริเวณทันที จากปริมาตรของ PDLLA ที่ฉีดเข้าไป
- หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ ร่างกายจะเริ่มกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ในชั้นใต้ผิว ซึ่งส่งผลให้มีการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้นใต้ผิว ผิวจึงเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยจะเริ่มมีความกระชับและแน่นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้นหลังจากฉีดไปแล้วประมาณ 6 สัปดาห์
PDLLA ฉีดทุกกี่เดือน?
จะแนะนำให้ฉีดทุกเดือน ต่อเนื่องกัน 3 เดือน หลังจากนั้นฉีดทุก 6-12 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์

ผลลัพธ์จาก PDLLA อยู่นานเท่าไหร่?
หลังฉีดครบตาม protocol ผลจากการฉีด PDLLA สามารถคงได้นานถึง 2 ปี ทั้งนี้ขึ้นกับการดูแลรักษา
PDLLA ปลอดภัยหรือไม่?
- PDLLA เป็นโพลิเมอร์จากธรรมชาติที่เข้ากับร่างกายมนุษย์
- PDLLA สามารถสลายได้ตามธรรมชาติไม่ทิ้งสารตกค้าง
- PDLLA เป็นสารที่ไม่ผ่านการตัดแต่งทางพันธุกรรม
- PDLLA ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศไทย เกาหลีและยุโรป
สลายได้หรือไม่?
- PDLLA ทำหน้าที่เป็นนั่งร้านหรือโครงให้ผิวสร้างคอลลาเจน หลังจากนั้นก็จะสลายไปตามธรรมชาติภายใน 6 เดือน ไม่ทิ้งสารตกค้าง
- PDLLA ต่างจาก Biostimulator ตัวอื่นที่ทนความร้อนได้ นั้นคือสามารถแตกได้โดยใช้ความร้อน เมื่อเกิดปัญหาเป็นก้อนหรือไต สามารถใช้เครื่องมือกลุ่มคลื่นวิทยุทำให้ PDLLA สลายออกได้
ขั้นตอนการรักษาเป็นอย่างไร?
- เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวตามด้วยการทายาชาทิ้งไว้ 45 นาที หลังจากนั้นเช็ดยาชา
- แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กในการฉีด 10-15 นาที
การฉีด PDLLA เจ็บหรือไม่?
- ปกติการฉีด PDLLA เริ่มต้นด้วยการแปะยาชาและใช้เข็มขนาดเล็กมากในการฉีด ทำให้เจ็บน้อย
- ตัวยา PDLLA ไม่แสบหรือปวดเมื่อเทียบกับกลุ่ม Polynucleotide
ผลข้างเคียงหลังการฉีดมีอะไรบ้าง?
หลังการฉีด PDLLA ผลข้างเคียงที่พบได้คือตุ่มนูน รอยเข็ม รอยช้ำและรอยแดงซึ่งเป็นอาการปกติจากการทำหัตถการ อาการเหล่านี้เป็นอาการเกิดชั่วคราว หายไปได้เอง
ฉีดแล้วบวมหรือไม่?
- หลังฉีดจะมีตุ่มยา ซึ่งจะหายไปประมาณ 2-4 ชั่วโมง
- อาการบวมจะค่อยๆลงลงภายใน 1-3 วัน
การฉีด PDLLA สามารถทำพร้อมหัตถการอื่นได้หรือไม่?
การฉีด PDLLA สามารถทำพร้อมกับหัตถการตัวอื่น ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
ผู้ที่ไม่ควรฉีด PDLLA?
- หญิงตั้งครรภ์ให้นมบุตร
- ผู้ที่แพ้กรดไฮยาลูโรนิคหรือกรดโพลีแลคติค
- ผู้มีโรคภูมิแพ้ตัวเอง
- ผู้ทีมีแผลหรือการอักเสบบริเวณที่จะทำการรักษา
สามารถฉีดในคนอายุเยอะได้หรือไม่?
ได้ เพราะ PDLLA สามารถฉีดได้ทุกช่วงอายุ เพราะทำให้ผิวสุขภาพดี ยืดหยุ่นมากขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น
PDLLA รักษาหลุมสิวหรือแผลเป็นได้หรือไม่?
- ได้เพราะ PDLLA ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ช่วยเติมเต็มหลุมสิวและแผลเป็น สามารถใช้เดี่ยวหรือเสริมกับเครื่องมือหรือหัตถการอื่นในการรักษาหลุมสิว
- ตัวสาร PDLLA จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและส่วนสารไฮยาลูโลนิกที่ช่วยให้ผิวฟูขึ้นโดยสารทั้งสองจะทำงานเสริมกันในการรักษาหลุมสิว
การปฏิบัติตัวก่อนฉีดทำอย่างไร?
- ควรเลือกคลินิกที่สั่งซื้อ PDLLA โดยตรงจากบริษัทนำเข้าและจัดจำหน่าย
- แจ้งประวัติการแพ้ยา ยาที่รับประทานเป็นประจำ โรคประจำตัว และสถานะการตั้งครรภ์กับแพทย์ทุกครั้งก่อนฉีด PDLLA เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
- งดรับประทานวิตามินและอาหารเสริมบางประเภท เช่นน้ำมันตับปลา วิตามินอี ใบแปะก้วยซึ่งอาจส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิต อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อลดโอกาสเกิดรอยช้ำ
- หากต้องทำหัตถการอื่นบนใบหน้าในวันเดียวกันเช่นนวดหน้า เลเซอร์ HIFU หรือการฉีดตัวยา ควรทำหัตถการเหล่านั้นให้เสร็จก่อนฉีด PDLLA
การดูแลตัวเองหลังฉีดทำอย่างไร?
- หลังจากฉีด PDLLA จะมีตุ่มนูนเล็ก ๆ ในจุดที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติและไม่เป็นอันตราย โดยตุ่มจะค่อยๆยุบใน 2-4 ชั่วโมง
- อาจมีการบวมหรือแดงโดยจะยุบลงใน 1-3 วัน
- บางครั้งอาจมีรอยเข็มหรือรอยช้ำเล็กน้อย สามารถจางภายใน 7-14 วัน สามารถใช้ยาลดรอยช้ำทาให้จางลงเร็วขึ้นหรือใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดได้
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าช่วง 24 ชั่วโมงแรก แต่หากจำเป็นสามารถแต่งหน้าได้ใน 4-6 ชั่วโมง
- ควรดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้มอยส์เจอไรเซอร์และครีมกันแดด
- เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและคงอยู่นาน ควรฉีดอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์