ปลูกผม FUT FUE

ข้อดี-ข้อเสีย? เลือกอย่างไรระหว่างปลูกผม FUE กับ FUT

  วิธีการปลูกผมในปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลัก คือ FUE และ FUT ซึ่งผู้อ่านหลายคนคงเคยได้ยินว่า FUE ดีกว่า FUT บ้าง บางคนก็ว่า FUT ดีกว่า FUE สรุปว่าเอายังไงกันแน่ แม้แต่ในกลุ่มแพทย์ปลูกผมก็ยังถกเถียงทะเลาะ (หรือบลัฟ) กันเองว่าวิธีไหนดีกว่ากัน

  การเปรียบเทียบ FUE หรือ FUT ว่าวิธีไหนดีกว่า ก็เหมือนกับการเทียบว่ารถเก๋งกับรถบรรทุก (สิบล้อ) ว่าคันไหนดีกว่ากัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าคำตอบย่อมขึ้นกับการใช้งานของเราที่จะเอารถคันนั้นไปทำอะไร หากนั่งโดยสารเองขับเข้าห้างสรรพสินค้าก็เลือกรถเก๋ง หากใช้บรรทุกของหนักก็เลือกรถบรรทุก ดังนั้นการเลือกวิธี FUE หรือ FUT นั้นก็ต้องมองว่าข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธีมีอะไรบ้าง แล้วตัวคนไข้ยอมรับวิธีไหนได้มากกว่ากัน

   สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจว่าเมื่อไรควรจะปลูกผมหรือค่าใช้จ่ายปลูกผมประมาณเท่าไร แนะนำให้กดเข้าไปอ่านในบทความนี้ก่อนครับ >>> ปลูกผมคืออะไร / ราคาปลูกผม

ยาปลูกผม เซตละ 990-/เดือน
ยาทาปลูกผม ยาหยอดผม แชมพู

ปลูกผม FUT

  ก่อนจะพูดถึงข้อดีข้อเสียของ FUT ต้องเท้าความก่อนนะครับว่าคนที่จะมาปลูกผมนั้นส่วนใหญ่มักมีปัญหาผมบางศีรษะล้านแบบผมบางทางพันธุกรรม (Androgenetic alopecia) ซึ่งผมบางประเภทนี้จะพบในเพศชายและมีลักษณะผมร่วงตามรูป โดยความรุนแรงของโรคจะเรียงจากเลข I ไปหา VII

ประเภท ผมบางทางพันธุกรรม

  ความรุนแรงของโรคผมบางทางพันธุกรรมนั้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ ซึ่งท้ายสุดแต่ละคนจะมีผมบางไปถึงจุดไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมในครอบครัวตนเอง (ให้ลองสังเกตคนในครอบครัวดูครับว่าผมบางถึงระดับไหน สุดท้ายตัวเราเองก็มักจะไปจบที่จุดนั้นเช่นกัน)

  ที่นี้จากรูปเราจะเห็นได้ว่าแม้ในคนผมร่วงมากสุดระดับ VII ก็ยังมีเส้นผมหลงเหลืออยู่บริเวณด้านข้างและด้านหลัง ซึ่งผมบริเวณนั้นจะมีความคงทนแข็งแรงไม่ฝ่อไปง่ายๆ ในทางการปลูกผมจึงเรียกบริเวณนี้ว่า safe zone/sweet spot ตามรูปข้างล่าง

บริเวณ ปลูกผม FUT FUE ด้านหลัง บริเวณ ปลูกผม FUT FUE ด้านข้าง

  ในช่วงปี 1992 มีแพทย์ท่านนึงเกิดไอเดียคิดวิธีการผ่าตัดเลือกเส้นผมบริเวณ safe zone มาแล้วย้ายมาปลูกบริเวณศีรษะล้านเพื่อที่จะให้เส้นผมที่ย้ายมาปลูกนั้นคงทนอยู่กับคนไข้ไปนานๆ ในแวดวงการปลูกผมจึงเรียกวิธีผ่าตัดนี้ว่า strip techniques หรือเรียกง่ายๆ ว่า FUT

ปลูกผม FUT

  ในช่วงปี 1992 มีแพทย์ท่านนึงเกิดไอเดียคิดวิธีการผ่าตัดเลือกเส้นผมบริเวณ safe zone มาแล้วย้ายมาปลูกบริเวณศีรษะล้านเพื่อที่จะให้เส้นผมที่ย้ายมาปลูกนั้นคงทนอยู่กับคนไข้ไปนานๆ ในแวดวงการปลูกผมจึงเรียกวิธีผ่าตัดนี้ว่า strip techniques หรือเรียกง่ายๆ ว่า FUT

ปลูกผม FUT แผลเป็น
แผลเป็น FUT

ข้อดี ข้อเสียปลูกผม FUT

  • จุดเด่น คือ ประสิทธิภาพ เนื่องจากเก็บกราฟผมในบริเวณที่ดีที่สุด (Safe zone/Sweet spot) สามารถเก็บกราฟผมได้เป็นจำนวนมากโดยที่ไม่ทำให้ผมบริเวณรอบๆ บางลง
  • สามารถใช้วิธี FUT เก็บกราฟผมได้ 3-5 ครั้งขึ้นไปตราบเท่าที่หนังศีรษะไม่ตึงมาก จึงสามารถเก็บกราฟผมได้มากถึง 4000-10,000 กราฟขึ้นไป (ขึ้นกับความหนาแน่นผมในแต่ละคน)
  • จุดอ่อน คือ ต้องไว้ผมยาวประมาณ 1-2 ซม.ขึ้นไปเพื่อปิดแผลเป็น และในการทำ FUT แต่ละครั้งที่ตำแหน่งผ่าตัดเดิมจะทำให้แผลเป็นกว้างขึ้น

ยาปลูกผม เซตละ 990-/เดือน
ยาทาปลูกผม ยาหยอดผม แชมพู

ปลูกผม FUE

  วิธีการของ FUE คือ ใช้หัวเจาะขนาดเล็กที่มีขนาด 0.6-1.2 มิลลิเมตร มาเจาะกราฟผมที่ละกราฟ ทำให้เกิดแผลขนาดเล็กๆ แต่ได้เส้นผมที่สามารถนำไปปลูกได้

  FUE เป็นเทคนิคที่คิดขึ้นในช่วงปี 2000s ซึ่งต่อยอดมาจากการปลูกผมแบบ punch graft อีกทีนึง โดยในปัจจุบันเราสามารถแยก FUE เป็น 3 วิธี ได้แก่

  • Manual FUE คือ แพทย์จะใช้นิ้วมือจับหัวเจาะแล้วปั่นเจาะเส้นผมเองโดยตรง ซึ่งในปัจจุบันไม่ค่อยพบเห็นวิธีนี้เท่าไร
  • Power FUE คือ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ามาแทนที่การหมุนด้วยนิ้วมือ ซึ่งจะช่วยทุนแรงในการเจาะ
  • Robotic FUE คือ ใช้หุ่นยนต์เจาะแทน ส่วนแพทย์คอยควบคุมหุ่นยนต์อยู่ข้างๆ วิธีนี้มักจะมีค่าใช้จ่ายสูงสุดเมื่อเทียบกับวิธีข้างต้น
ปลูกผม FUE ไร้รอยแผลเป็น
ปลูกผม FUE แผลเป็น
แผลเป็น FUE

  จากรูปเราจะเห็นได้ว่าเมื่อเราเก็บกราฟผมไปแล้วจะเกิดเป็นรูแผลเล็กๆ ขนาดไม่เกิด 1 มิลลิเมตร เมื่อแผลเหล่านี้สมานตัวก็จะเกิดแผลเป็นที่มีขนาดเล็กมาก สังเกตแผลเป็นได้ยาก จึงทำให้คนไข้สามารถไว้ผมได้สั้นกว่าวิธี FUT แต่ว่าถ้าต้องเก็บกราฟผมเป็นจำนวนมากก็จะทำให้เส้นผมมีความหนาแน่นลดลงและทำให้ผมบางบนบริเวณที่ทำ FUE ได้

ข้อดี ข้อเสียปลูกผม FUE

  • จุดเด่น คือ แผลเป็นมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ (ขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร) ทำให้แผลหายได้เร็ว และมองเห็นแผลเป็นได้ยาก สามารถไว้ผมได้สั้นกว่าประมาณ 0.5-1 ซม. ขึ้นไป
  • สามารถเก็บเส้นขนเครา ขนหน้าอกมาปลูกที่ศีรษะได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเป็นยาวแบบ FUT
  • จุดอ่อน คือ ทำให้ความหนาแน่นผมบริเวณที่เก็บกราฟบางตัวลงเร็ว บางคนเก็บกราฟ 2000-3000 กราฟก็ทำให้รู้สึกว่าผมบางพอสมควร

ค่าใช้จ่าย FUE ต่างจาก FUT ไหม

  ค่าใช้จ่ายในการปลูกผมแบบ FUE มักจะสูงกว่า FUT เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ใช้ระยะเวลาทำนานมากกว่า โดยทั่วไปการคำนวนค่าใช้จ่ายมักคิดเป็นราคาต่อกราฟผม ซึ่งสามารถดูได้จากบทความนี้ครับ >>> ค่าใช้จ่ายปลูกผม

ตารางสรุปข้อดีข้อเสียปลูกผม FUE FUT

ข้อดี ข้อเสีย FUE

ข้อดี

  • สามารถไว้ทรงผมสั้นๆ ได้ เนื่องจากแผลเป็นมีขนาดเล็กๆ กระจายไปทั่ว ทำให้ไม่สามารถมองเห็นแผลเป็นได้ง่าย
  • ไม่ต้องเย็บแผล จึงไม่ต้องเสียเวลามาตัดไหม
  • สามารถเก็บเส้นผม/ขนบริเวณอื่นมาปลูกผมได้ เช่น ขนเครา

ข้อเสีย

  • ผมจะบางลงชัดเจนหากเก็บเส้นผมเป็นจำนวนมาก (เช่น 3000-5000 กราฟขึ้นไป)
  • ไขมันหุ้มรากผมน้อยกว่า FUT จึงทำให้เส้นผมได้รับอันตรายบริเวณรากผมได้ง่ายกว่า

ข้อดี ข้อเสีย FUT

ข้อดี

  • กราฟผมจาก FUT จะถูกคัดมาจากบริเวณที่เรียกว่า Safe zone/Sweet spot ซึ่งเป็นบริเวณที่เส้นผมแข็งแรงและมีโอกาสที่จะฝ่อหายไปตามอายุต่ำมาก เสมือนเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีจะทำให้เส้นผมที่นำมาปลูกอยู่ได้ยาวนานตราบเท่าที่มีผมด้านหลังอยู่
  • กราฟผมจะมีไขมันหุ้มรากมาก ช่วยป้องกันอันตรายจากสภาพแวดล้อมนอกร่างกาย ทำให้มีอัตราการอยู่รอดสูงกว่า FUE
  • ไม่ทำให้ผมบริเวณ donor (ส่วนที่ผ่าตัดเก็บเส้นผม) บางลงแม้จะเก็บเส้นผมไปเป็นจำนวนมาก

ข้อเสีย

  • หลังผ่าตัดจะเกิดเป็นแผลเป็นยาว ซึ่งความกว้างของแผลเป็นจะมีขนาด 1-5 มม.* (ส่วนใหญ่เฉลี่ยอยู่ที่ 2-3 มม.) จึงจำเป็นต้องไว้ผมยาว 1-2 ซม. เพื่อซ่อนแผลเป็น
  • ไม่สามารถใช้เก็บเส้นขนที่บริเวณอื่นตามร่างกายได้ (เนื่องจากจะเกิดแผลเป็นยาว)

*ความกว้างของแผลเป็นขึ้นกับสภาพและลักษณะของหนังศีรษะของคนไข้แต่ละคน

ยาปลูกผม เซตละ 990-/เดือน
ยาทาปลูกผม ยาหยอดผม แชมพู

สรุปสั้นๆ

  • วิธีปลูกผม FUE และ FUT ดีเท่าๆ กันครับ ขึ้นกับความต้องการของคนไข้ว่าต้องการอะไรเป็นหลัก
  • ปัจจัยที่ต้องคิดถึง คือ จำนวนกราฟที่ต้องการใช้ปลูก, พื้นที่บริเวณปลูก (พื้นที่ศีรษะล้าน), ทรงผมที่จะไว้หลังปลูกผม และระยะเวลาพักฟื้น
  • คนที่ศีรษะล้านมากและต้องการกราฟผมมากๆ เช่น 3000-4000 กราฟขึ้นไป ควรเลือก FUT
  • คนที่ต้องการไว้ผมสั้นๆ หรือต้องการฟื้นตัวเร็ว ควรเลือก FUE