คีลอยด์เกิดจากอะไร เข้าคลินิกแล้วจะรักษายังไงบ้าง

  คีลอยด์จัดเป็นแผลเป็นประเภทนึงที่มีขนาดใหญ่และสร้างความไม่สบายใจ(และสบายตา)เป็นอย่างมาก และคำถามที่หมอเจอบ่อยมากในคลินิกก็คือจะรู้ได้อย่างไรว่าแผลเป็นนี้เป็นแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ แล้วมันเกิดจากอะไร มีวิธีรักษาอย่างไรกันบ้าง เรามาดูรายละเอียดกันค่ะ

รักษา คีลอยด์

เคสรีวิวรักษาคีลอยด์/แผลเป็นนูน
ด้วยเลเซอร์และยา ลด 50%

คีลอยด์ (Keloids) คืออะไร?

  แผลเป็นนูนที่เกิดจากการซ่อมแซมอย่างผิดปกติทำให้มีขนาดใหญ่นูนกว่ารอยแผลเดิมกว่า อาจเกิดภายหลังเกิดหลังเกิดแผลทันทีหรืออาจเกิดเมื่อแผลหายดีแล้ว

คีลอยด์มีลักษณะอย่างไร?

  • ก้อนแผลเป็นนูนอาจเป็นก้อนหรือเป็นขีดหนาตามลักษณะของแผลเดิม ขยายขนาดได้เรื่อยๆ
  • มีสีแดง น้ำตาลหรือม่วงเข้ม
  • เวลาจับจะแข็งๆแน่นๆคล้ายยางลบ
  • โดยจะมีขนาดใหญ่กว่ารอยแผลเดิมมาก
  • อาจมีอาการคัน เจ็บๆ แสบๆ ร่วมด้วย

คีลอยด์เกิดตำแหน่งไหน?

  สามารถเกิดได้ทุกตำแหน่งที่เกิดการบาดเจ็บของผิว ไม่ว่าจะเป็นการเจาะหู รอยเกา รอยถลอก รอยแผลสิว รอยผ่าตัด แผลอีสุกอีใส

ทำไมถึงเกิดคีลอยด์?

  • เชื่อว่าเกิดจากกรรมพันธุ์ ถ้าพ่อแม่เป็น ลูกมีโอกาสเป็น
  • จากการศึกษาพบว่าเกิดในคนที่ผิวเข้มมากกว่าคนผิวขาว โดยคนแอฟริกา คนเอเชีย คนลาตินพบว่าเกิดคีลอยด์มากกว่าฝรั่งขาวหรือคอเคเซียน

คีลอยด์อันตรายหรือไม่?

  ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ปกติเราจะรักษาด้วยสาเหตุเรื่องของความสวยงามหรือมีอาการเจ็บแสบคัน

จะรู้ได้อย่างไรว่า เราเป็นแผลคีลอยด์ได้ง่ายหรือไม่?

  • ดูจากแผลปลูกฝี BCG ตอนทารกที่ต้นแขน
  • ประวัติคนในครอบครัว มีคีลอยด์ง่าย

เราสามารถป้องกันการเกิดคีลอยด์ได้อย่างไร?

  • ผู้ที่เกิดคีลอยด์ง่าย ควรระวังการเกิดแผลเพราะมีโอกาสที่แม้แต่การเจาะหูก็อาจได้ตุ้มหูคีลอยด์แถมมา
  • ใช้แผ่นซิลิโคนแปะแผลไว้หลังจากเกิดแผล แต่ผลที่ได้ก็ไม่แน่นอน

คีลอยด์หายเองได้หรือไม่?

  คีลอยด์ไม่สามารถยุบลงเองได้ ต้องทำการรักษา

คลินิก รักษา คีลอยด์

เคสรีวิวรักษาคีลอยด์/แผลเป็นนูน
ด้วยเลเซอร์และยา ลด 50%

คีลอยด์รักษาอย่างไร?

  การรักษามีหลายวิธีขึ้นกับขนาดและตำแหน่งเช่นการฉีดยาให้คีลอยด์ยุบ การใช้เลเซอร์หรือความเย็นจี้ออก การใช้เลเซอร์ลดความแดง การผ่าตัดเอาก้อนคีลอยด์ออก การใช้แผ่นแปะกดก้อนคีลอยด์ไว้ แต่ไม่ว่าเป็นการรักษาแบบไหนก็มีโอกาสที่คีลอยด์จะกลับมาเป็นซ้ำ หลังรักษาตัวหมอเองจะแนะนำให้คนไข้ใช้แผ่นซิลิโคนแปะแผลไว้เสมอ

การฉีดยารักษาคีลอยด์ทำอย่างไร? ต้องทำกี่ครั้ง?

  ตัวยาที่ใช้หลักในการฉีดคือคอร์ติโคสเตียรอยด์ เป็นการรักษาตามมาตรฐานที่ปลอดภัยและไม่เจ็บมาก โดยแพทย์จะเป็นผู้ฉีดตัวยาเข้าไปในก้อนคีลอยด์ ทำเดือนละ 1 ครั้งต่อเนื่องไปเรื่อยจนกระทั่งคนไข้พอใจ

การผ่าคีลอยด์ออกทำอย่างไร? เจ็บแต่จบหรือไม่?

  คือการตัดก้อนคีลอยด์ออกแล้วเย็บขอบแผลมาชนกัน เป็นหนึ่งในวิธีรักษาคีลอยด์ แต่ก็ถือว่ามีความเสี่ยงเพราะการผ่าตัดก็ทำให้ผิวเกิดการบาดเจ็บ มีโอกาสที่คีลอยด์จะกลับมาเป็นซ้ำ ดังนั้นหลังทำแพทย์จะใช้วิธีอื่นร่วมด้วยเช่นการฉีดยาหรือการกดด้วยแผ่นซิลิโคน

คีลอยด์เมื่อรักษาแล้วมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำหรือไม่?

  คีลอยด์ถือเป็นโรคที่รักษายาก เมื่อรักษาไปแล้วมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำถึง 50%

แผลนูนทุกชนิดคือคีลอยด์หรือไม่?

ไม่ใช่ แผลเป็นนูนจะมีอยู่ 2 ชนิดคือ
  1. แผลเป็นนูนเกิน (Hypertrophic scar)
  2. คีลอยด์ (Keloid)
แผลเป็นนูน คีลอยด์ เกิดจาก

แผลนูนเกิน (Hypertrophic scar) ต่างจากแผลคีลอยด์ (Keloid)อย่างไร?

ความต่างคือ
  • แผลนูนเกิน เกิดได้กับทุกคน มักเกิดในบริเวณที่มีความตึงมาก ขนาดไม่ใหญ่กว่าแผลเดิม สูงไม่เกิน 4 มิลลิเมตร แผลมีสีเนื้อหรือน้ำตาลอ่อน หายเองได้ภายใน 6 เดือนถึง 3 ปี
  • แผลคีลอยด์มีกรรมพันธุ์มาเกี่ยวข้อง เกิดได้ทุกที่ที่ผิวบาดเจ็บ ขนาดใหญ่กว่าแผลเดิมมาก ขยายขนาดได้เรื่อยๆ ก้อนแข็งคล้ายยางลบ มีสีแดง น้ำตาลหรือม่วง ไม่หายเอง

รักษาคีลอยด์
ที่มิ่งขวัญคลินิก